มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 12/2554 (ครั้งที่ 70)
เมื่อวันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.30 น.
ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายชวลิต พิชาลัย) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นการชั่วคราวประมาณ 2 - 3 เดือน โดยมอบหมายคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการ และถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และเงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม และให้นำเสนอ กพช. ในการพิจารณาต่อไป ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 กพช. ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 โดยมอบหมาย กบง. รับไปดำเนินการ หากฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิเหลือวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ให้นำเสนอ กพช. เพื่อพิจารณาต่อไป
2. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 18 มีนาคม 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วรวม 11 ครั้ง กองทุนน้ำมันฯ จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 22 มีนาคม 2554 ไปแล้วประมาณ 13,724 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 22 มีนาคม 2554 มีเงินสดในบัญชี 35,170 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 19,546 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 19,187 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 359 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 15,624 ล้านบาท สามารถชดเชยไปได้อีกประมาณ 50 วัน โดยยังมีหนี้ที่มีมติไปแล้วแต่ยังไม่มีการเบิกจ่าย 14,361 ล้านบาท แยกเป็นหนี้เงินชดเชยค่าปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถแท๊กซี่ 1,200 ล้านบาท หนี้เงินชดเชยก๊าซ LPG จากโรงกลั่นในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า 1,428 ล้านบาท หนี้เงินชดเชยการตรึงราคาก๊าซ NGV (กันยายน 2553 - กุมภาพันธ์ 2554) 2,094 ล้านบาท หนี้เงินชดเชยการตรึงราคาก๊าซ NGV (มีนาคม - มิถุนายน 2554) 1,547 ล้านบาท หนี้เงินชดเชยก๊าซ LPG นำเข้า (มีนาคม - มิถุนายน 2554) 8,092 ล้านบาท
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับสูง โดยวันที่ 21 มีนาคม 2554 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 108.77 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการปรับอัตราเงินชดเชยครั้งที่แล้ว ณ วันที่ 17 มีนาคม 2554 อยู่ที่ 2.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 121.18 และ 131.80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.20 และ 1.91 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันมีผลเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2554 ทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 อยู่ที่ 37.44 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 0.7146 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วัน อยู่ที่ 1.0047 บาทต่อลิตร
4. เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลของผู้ค้าน้ำมันไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตร เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเห็นควรปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จะทำให้ค่าการตลาดอยู่ที่ 1.1146 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วัน อยู่ที่ 1.0847 บาทต่อลิตร ภาระกองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 21.2 ล้านบาทต่อวัน
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จากชดเชย 4.70 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 5.10 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) ได้แจ้งที่ประชุมฯ ว่า ธพ. ได้ออกประกาศขยายระยะเวลาการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี2 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในประเทศจะอยู่ในภาวะปกติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ หากจะมีการปรับเปลี่ยนน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก บี2 เป็น บี3 จะต้องแจ้งให้ผู้ค้าน้ำมันทราบล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมการต่อไป
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ