มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 8/2554 (ครั้งที่ 66)
เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 15.30 น.
ณ ห้องประชุม 215 - 216 อาคารรัฐสภา 2
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นการชั่วคราวประมาณ 2 - 3 เดือน โดยมอบหมายคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการ และถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และเงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม และให้นำเสนอ กพช. ในการพิจารณาต่อไป ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 กพช. ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 โดยมอบหมาย กบง. รับไปดำเนินการ
2. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึง 25 กุมภาพันธ์ 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 8 ครั้ง โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ได้รับการชดเชยสะสมแล้ว 4.15 และ 3.55 บาทต่อลิตร ตามลำดับ กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 ไปแล้วประมาณ 8,070 ล้านบาท และฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 มีเงินสดในบัญชี 36,029 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 14,345 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 14,075 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 270 ล้านบาท ดังนั้น กองทุนน้ำมันฯ จึงมีฐานะสุทธิ 21,684 ล้านบาท
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงปรับตัวอยู่ในระดับสูง จากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศลิเบีย โดยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 น้ำมันดิบดูไบปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 111.59 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันที่ผ่านมา 6.98 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ระดับ 123.42 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 8.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 127.94 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 7.85 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 น้ำมันดิบดูไบ เบนซิน 95 และ ดีเซล ได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ระดับ 107.50, 118.81 และ 124.26 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ ลดลง 4.09, 4.16 และ 3.68 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น 2 ครั้ง ครั้งละ 0.50 บาทต่อลิตร เมื่อวันที่ 25 และ 27 กุมภาพันธ์ 2554 โดยน้ำมันเบนซิน 91 อยู่ที่ระดับ 41.24 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 อยู่ที่ระดับ 36.84 บาทต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 สนพ. ได้ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันคงราคาอยู่ที่ระดับ 29.99 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และ บี5 อยู่ที่ 0.4922 บาทต่อลิตร และ 0.3092 บาทต่อลิตร ตามลำดับ จากค่าการตลาดที่อยู่ในระดับต่ำอาจทำให้ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกเกิน 30.00 บาทต่อลิตร
4. เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลของผู้ค้าน้ำมันไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตร จากต้นทุนราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร จากชดเชย 4.00 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 4.50 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องจากติดลบ 220 ล้านบาทต่อวัน เป็นติดลบ 247 ล้านบาทต่อวัน โดยในวันที่ 1 มีนาคม 2554 จะมีการลดส่วนผสมของไบโอดีเซลลงจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 2 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนราคาของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ลดลงประมาณ 0.2650 บาทต่อลิตร
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร จากชดเชย 4.00 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 4.50 บาทต่อลิตร และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป
2. เห็นชอบในหลักการให้การปรับค่าการตลาดแต่ละครั้ง เมื่อปรับแล้วค่าการตลาดต้องไม่เกิน 1.30 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 5 วันทำการ ประมาณ 1.10 บาทต่อลิตร เพื่อใช้เป็นกรอบในการพิจารณากำหนดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วต่อไป
1. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติให้ขยายการตรึงราคาขายปลีกก๊าซ LPG และ NGV ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2554 และให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายชดเชย NGV ในอัตรา 2 บาทต่อกิโลกรัมต่อไป ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานจะออกประกาศตามที่ กพช. ได้มีมติต่อไป
2. ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน ได้แจ้งที่ประชุมว่า ตามกรอบงบค่าใช้จ่ายอื่น ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 2551 จำนวน 350 ล้านบาท และปี 2552 - 2553 จำนวนเงินปีละ 300 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มียอดเงินคงเหลือที่สามารถใช้จ่ายได้ประมาณ 160 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
ที่ประชุมรับทราบ