วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2565 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ได้จัดงานสัมมนา New Energy แผนพลังงานชาติ สู่ความยั่งยืน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณฯ กรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอทิศทางการขับเคลื่อนของภาคพลังงานในการพัฒนาพลังงานของประเทศที่ชัดเจนมากขึ้นและสอดรับกับข้อตกลงที่ประเทศจะมุ่งสู่พลังงานสะอาด ลดการปลดปล่อยก๊าซ Co2 พร้อมสร้างความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืน โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ร่วมเป็นวิทยากรพิเศษในการเสวนาและตอบคำถามบทเวทีด้วย

                       ผอ.สนพ. ได้บรรยายในหัวข้อ PDP Action Plan การจัดหาพลังงานสะอาดของประเทศ” โดยเนื้อหาการบรรยาย ผอ.สนพ. ได้กล่าวถึงหลักการสำคัญในการจัดทำแผน PDP 2022 (ค.ศ. 2022 – 2037) ว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ฉบับใหม่ (PDP 2022) ระหว่างปี 2565-2580 ซึ่งจะอยู่ภายใต้หลักการสำคัญ ดังนี้

                                    เน้นความมั่นคง

                                    ระบบผลิตไฟฟ้ามีความยืดหยุ่นเพียงพอต่อการรองรับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) ที่จะปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากฟอสซิลไปสู่พลังงานทดแทน

                                    ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม

                                    คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยจำกัดปริมาณการปลดปล่อย CO2 ให้สอดคล้องตามเป้าหมายแผน Carbon neutrality และ Net zero emission

                                    การเพิ่มประสิทธิภาพในระบบไฟฟ้า ทั้งด้านการผลิตไฟฟ้าและด้านการใช้ไฟฟ้า โดยมีการนำเทคโนโลยีระบบโครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ทกริด และ GREEN TARIFF รองรับการซื้อขายไฟฟ้าพลังงานทดแทนโดยตรงจากผู้ซื้อและผู้ขาย

                       แผน PDP 2022 คืบหน้าแล้วกว่า 80% ซึ่งมีการจัดทำพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศใหม่ ภายใต้สมมติฐานที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น …จำนวนประชากร อัตราขยายตัว GDP ที่ลดลงเหลือประมาณ 3% ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้งจากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง (HST) รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพ/ปริมณฑล และใน 6 เมืองหลัก (MRT) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือนโยบาย 30@30 รวมถึงการปรับแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) ที่เพิ่มเป้าหมายเป็น 40% จากเดิม 30% ตลอดจนสมมติฐานผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กมาก (VSPP) และการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง (IPS)

                       ขณะที่”ด้านเทคนิค” ได้พิจารณาเรื่องเกณฑ์ความมั่นคง (LOLE) ที่ไม่ได้คำนึงถึงสำรองไฟฟ้า แต่จะดูเรื่องไฟฟ้าไม่ดับในอัตรา 0.7 วัน/ปี ข้อมูลโรงไฟฟ้าที่มีข้อผูกพันแล้วในปัจจุบัน ศักยภาพสายส่งไฟฟ้าระบบภูมิภาค ตลอดจนประเภทของโรงไฟฟ้า เทคโนโลยีทางเลือกที่จะนำมาพิจารณาในแผน เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซฯ จะต้องมีไฮโดนเจน เข้ามาร่วมในสัดส่วนประมาณ 20% เป็นต้น รวมทั้งการประมาณราคาเชื้อเพลิงต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและอัตรารับซื้อไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแต่ละประเภทสัดส่วนโรงไฟฟ้าฐานและโรงไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ ที่เหมาะสมอีกด้วย

                       นอกจากนี้ ผอ.สนพ. ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคการผลิตไฟฟ้า ว่า จะต้องเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในแผน PDP ฉบับเดิม (PDP 2018 Rev.1) ปี 2561-2580 ได้เพิ่มสัดส่วนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ระยะสั้น 10 ปี (2565-2573) ประมาณ 10,000 เมกะวัตต์ คาดว่าภายในปีนี้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะออกประกาศรับซื้อไฟฟ้า โครงการโซลาร์ฟาร์ม ประมาณ 2,300 เมกะวัตต์ โซลาร์ฯ+ แบตเตอรี่ (ESS) ประมาณ1,000 เมกะวัตต์ และพลังงานลม ซึ่งแผน PDP ฉบับนี้จะสามารถเริ่มใช้ในปี พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

***************************