มติการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 5/2567 (ครั้งที่ 69)
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2567
1. การกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว
ผู้มาประชุม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการ
(นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค)
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและเลขานุการ
(นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท)
เรื่องที่ 1 การกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติเห็นชอบหลักการแนวทางการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล (บี100) ในสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงภาวะปกติและภาวะวิกฤติ ดังนี้ ภาวะปกติ ระยะสั้น (พ.ศ. 2565 ถึง พ.ศ. 2566) กำหนดให้มีน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 2 เกรด คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 สำหรับใช้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่ และระยะยาว (พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป) กำหนดให้มีน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 เกรดเดียว สำหรับภาวะวิกฤติ คือ ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วสูงกว่า 30 บาทต่อลิตร โดยไม่มีการชดเชยราคาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กองทุนน้ำมันฯ) แบ่งเป็น 2 กรณี คือ หากราคาไบโอดีเซลสูงกว่า 1.5 เท่า หรือ 2.5 เท่า ของราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลพื้นฐาน (บี0) ให้นำเสนอ กบง. พิจารณาปรับลดสัดส่วนผสมของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เป็นร้อยละ 5 หรือร้อยละ 3 ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 กบง. ได้มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยกำหนดสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสม ดังนี้ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 โดยปริมาตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 10 โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่า ร้อยละ 20 โดยปริมาตร และ กบง. ได้มีการขยายมติเห็นชอบการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลต่อไปอีก 3 ครั้ง เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 วันที่ 15 กันยายน 2566 และวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ตามลำดับ โดยต่อมา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเห็นชอบ แนวทางการปรับลดชนิดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเหลือ 2 ชนิด คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (หรือน้ำมัน บี7 ที่มีส่วนผสมไบโอดีเซลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 โดยปริมาตร) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 (หรือน้ำมัน บี 20 ที่มีส่วนผสมไบโอดีเซลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 19 และไม่สูงกว่าร้อยละ 20 โดยปริมาตร) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
2. สถานการณ์ราคาไบโอดีเซลวันที่ 4 - 10 พฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ 48.33 บาทต่อลิตร โดยราคาไบโอดีเซลเฉลี่ยไตรมาส 1 ไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ของปี 2567 อยู่ที่ 35.76 บาทต่อลิตร 35.96 บาทต่อลิตร และ 35.59 บาทต่อลิตร ตามลำดับ ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 อยู่ที่ 46.38 บาทต่อกิโลกรัม ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึงร้อยละ 33 โดยราคา CPO เฉลี่ยไตรมาส 1 ไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ของปี 2567 อยู่ที่ 33.37 บาทต่อกิโลกรัม 33.16 บาทต่อกิโลกรัม และ 33.16 บาทต่อกิโลกรัม ตามลำดับ ทั้งนี้ ราคาไบโอดีเซลปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตปาล์มลดลง และสถานการณ์ราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่ปรับสูงขึ้น ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคา CPO ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือไม่ให้ส่งออก CPO เพื่อรักษาสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้รายงานปริมาณสต๊อก CPO เดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 330,300 ตัน และคาดการณ์ปริมาณผลปาล์มน้ำมันเดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ 1.29 ล้านตัน โดยปริมาณผลปาล์มที่ใช้ผลิตCPO เฉลี่ยอยู่ที่ 1.42 ล้านตัน คิดเป็น CPO 268,419 ตัน และมีความต้องการใช้ภายในประเทศ 205,868 ตัน ส่งออกรวม 114,466 ตัน คิดเป็นสต๊อกคงเหลือยกไปเดือนตุลาคม 2567 เท่ากับ 278,385 ตัน ซึ่งต่ำกว่าระดับสต๊อกที่เหมาะสมซึ่งอยู่ที่ประมาณ 300,000 ตัน ทั้งนี้ สศก. ได้คาดการณ์ปริมาณผลปาล์มน้ำมัน เดือนตุลาคม 2567 อยู่ที่ 1.11 ล้านตัน เดือนพฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ 1.03 ล้านตัน และเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ 1.01 ล้านตัน โดยลดลงตามลำดับ
3. ฝ่ายเลขานุการฯ มีความเห็นว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันไบโอดีเซลวันที่ 4 - 10 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งอยู่ที่ 48.33 บาทต่อลิตร ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งอยู่ที่ 40.10 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.54 บาทต่อลิตร โดยหากกองทุนน้ำมันฯ ยังคงเก็บเงินกองทุนในอัตราปัจจุบันที่ 0.87 บาทต่อลิตร จะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 0.58 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ระดับ 33.52 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ การปรับลดสัดส่วนผสม ไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา จากร้อยละ 6.6 (น้ำมันดีเซล บี7) เป็นร้อยละ 5.0 (น้ำมันดีเซล บี5) จะสามารถลดต้นทุนน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาลงได้ประมาณ 0.46 บาทต่อลิตร โดยปริมาณการใช้ไบโอดีเซลลดลงประมาณ 0.97 ล้านลิตรต่อวัน (คิดจากปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลเฉลี่ยเดือนกันยายน 2567 ซึ่งอยู่ที่ 60.76 ล้านลิตรต่อวัน ปริมาณการใช้ไบโอดีเซลของน้ำมันดีเซล บี7 ประมาณ 4.01 ล้านลิตรต่อวัน และการใช้ ไบโอดีเซลของน้ำมันดีเซล บี5 ประมาณ 3.04 ล้านลิตรต่อวัน) หรือคิดเป็นปริมาณ CPO ในภาคพลังงานลดลงประมาณ 0.85 พันตันต่อวัน (เดือนกันยายน 2567 น้ำมันดีเซล บี7 ใช้ CPO ประมาณ 3.49 พันตันต่อวัน และน้ำมันดีเซล บี5 ใช้ CPO ประมาณ 2.64 พันตันต่อวัน) นอกจากนี้ การปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลดังกล่าวจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีความยืดหยุ่นในการบริหารกองทุน มีสภาพคล่องดีขึ้น หรือในอนาคต อาจสามารถปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ ดังนั้น เพื่อให้ราคาไบโอดีเซล ราคา CPO และปริมาณ สต๊อกน้ำมันปาล์มอยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเห็นควรให้ปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซล อยู่ที่ร้อยละ 5.0 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้เพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันฯ ลง ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากมีการปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลจากร้อยละ 6.6 (น้ำมันดีเซล บี7) เป็นร้อยละ 5.0 (น้ำมันดีเซล บี5) ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 โครงสร้างราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาที่มีสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเป็นร้อยละ 5.0 (น้ำมันดีเซล บี5) จะมีราคา ณ โรงกลั่นลดลง จากเดิม 21.43 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ 20.97 บาทต่อลิตร โดยหากคงค่าการตลาดในระดับเดิมที่ 1.84 บาทต่อลิตร เพื่อให้ราคาขายปลีกอยู่ในระดับเดิมที่ 32.94 บาทต่อลิตร จะทำให้สามารถพิจารณาปรับอัตราเงิน กองทุนน้ำมันฯ จากเดิมอยู่ที่ 0.87 บาทต่อลิตร เป็น 1.33 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยลดภาระของกองทุนน้ำมันฯ ลงได้
4. สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้หารือกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ถึงผลกระทบในการปรับสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล โดยทั้ง 2 หน่วยงานได้มีความเห็น ดังนี้
4.1 ธพ. ได้มีความเห็นว่า ไม่มีข้อขัดข้องต่อการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากในด้านเทคนิคไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานกับรถยนต์ ซึ่งในส่วนของการออกประกาศ ธพ. กำหนดลักษณะและคุณภาพ ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา โดยกำหนดสัดส่วนผสมไปโอดีเซลเป็นไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๕.๐ โดยปริมาตร และไม่สูงกว่าร้อยละ ๗ โดยปริมาตร จะต้องมีขั้นตอนการดำเนินการซึ่งโดยทั่วไปใช้ระยะเวลารวม ๒๕ วัน นับจากวันที่ กบง. มีมติเห็นชอบ แต่ในกรณีที่เป็นนโยบายเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ก็สามารถดำเนินการโดยใช้ระยะเวลา ๑๔ วัน นับจากวันที่ กบง. มีมติเห็นชอบ ซึ่งเป็นเหตุผลความจำเป็น ตามข้อ ๔ ของคำแนะนำของคณะกรรมการพัฒนากฎหมาย เรื่อง การรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องประกอบการจัดทำร่างกฎหมาย และต้องขอความร่วมมือจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ให้เร่งดำเนินการลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ เห็นสมควรประสาน พพ. ในฐานะกรรมการ ในคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม และคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ซึ่งแต่งตั้งภายใต้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) และในฐานะผู้ช่วยเลขานุการใน กนป. นำเรื่องการปรับลดสัดส่วนไบโอดีเซลเป็นน้ำมันดีเซล บี5 แจ้งต่อคณะอนุกรรมการ ทั้ง ๒ คณะดังกล่าว และ กนป. เพื่อทราบ และแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาปริมาณสต๊อก และระดับราคาของน้ำมันปาล์มที่เหมาะสมต่อไป
4.2 พพ. ได้มีความเห็นว่า จากข้อมูลราคาไบโอดีเซลต่อราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซล บี0 ในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2567 – วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 พบว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ราคาไบโอดีเซลสูงกว่า 1.5 เท่าของราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซล บี0 และตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2567 สูงกว่า 2.5 เท่าของราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซล บี0 ทั้งนี้ พพ. ได้ประมาณการสมดุลน้ำมันปาล์มโดยอาศัยข้อมูลของคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม และคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ย้อนหลัง 5 ปี สรุปได้ว่า (1) กรณีคงสัดส่วนผสมน้ำมันดีเซล บี7 พบว่าสต็อก CPO ปลายปีในเดือนธันวาคม 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 143,543 ตัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการบริโภค และผลผลิตจะเริ่มเข้าสู่ตลาด ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ถึงเดือนมิถุนายน 2568 ทำให้สต็อกกลางปีหน้าในเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ประมาณ 412,709 ตัน และ (2) กรณีปรับสัดส่วนผสมเป็นน้ำมันดีเซล บี5 พบว่าสต็อก CPO ปลายปีในเดือนธันวาคม 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 180,830 ตัน ซึ่งจะทำให้ปริมาณการใช้ CPO ในภาคพลังงานลดลงประมาณ 28,000 ตันต่อเดือน และผลผลิตจะเริ่มเข้าสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ถึงเดือนมิถุนายน 2568 ทำให้สต็อกกลางปีหน้าในเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ประมาณ 618,730 ตัน
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันในน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสม ดังนี้ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5.0 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 19 และไม่สูงกว่าร้อยละ 20 โดยปริมาตร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานเปลี่ยนแปลง
2. มอบหมายให้ กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ออกประกาศ ธพ. เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. 2567 ให้สอดคล้องกับการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล ตามข้อ 1
3. มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ประสานฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ นำเสนอการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล