สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลก ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่ยังเพิ่มขึ้นสูงทั่วโลก ทำให้หลายประเทศต้องประกาศมาตรการเข้มงวด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด เช่น จีน ประกาศมาตรการรับมือโควิด-19 Zero-tolerance ทำให้กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่สหรัฐฯ และออสเตรเลียประกาศจำกัดเที่ยวบิน ซึ่งจะชะลอการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมัน

              ราคากลางน้ำมันเบนซินตลาดภูมิภาคเอเชีย ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว จากอุปสงค์น้ำมันเบนซินได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในภูมิภาค โดยเฉพาะเวียดนามที่กำลังเผชิญกับปัญหาปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่อุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังโรงกลั่นในญี่ปุ่นเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งหลังจากปิดซ่อมบำรุงในช่วงก่อนหน้า

              ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่ยังคงรุนแรงและมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้หลายประเทศต้องประกาศมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐฯ มีการแพร่ระบาดรุนแรงในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ กอปรกับการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมัน

              นอกจากนี้สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะฉุดความต้องการใช้น้ำมันลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ IEA ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 64 ลงสู่ระดับ 5.3 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 5.4 ล้านบาร์เรล/วัน

              อย่างไรก็ตาม ให้ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ กลุ่ม Hezbollah กลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะห์เตือนสหรัฐฯ และอิสราเอลไม่ให้ขัดขวางเรือขนส่งน้ำมันเตาจากอิหร่านที่กำลังมุ่งหน้าไปเลบานอนที่ประสบปัญหาขาดแคลนเชื้อเพลิงอย่างรุนแรงจากรัฐบาลประสบปัญหาไม่มีงบประมาณ

อ่านเพิ่มเติม  คลิ๊กที่นี่

***************************