สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลก ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากตลาดยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะส่งผลให้การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์การเติบโตของปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในปีนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ที่ 1.49 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.39 ล้านบาร์เรล/วัน

              ราคากลางน้ำมันเบนซินตลาดภูมิภาคเอเชีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากตลาดกังวลอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคที่ตึงตัว จากการลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในจีนและอินเดีย ส่งผลให้มีการส่งออกน้ำมันเบนซินลดลง นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของปากีสถานที่เพิ่มสูงขึ้น

             ราคากลางน้ำมันดีเซลตลาดภูมิภาคเอเชีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลจากอินโดนีเซียเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอ่อนแอ โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

             แนวโน้มราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง จากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะอินเดียที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง ประกอบกับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 14.5% ของประชากร นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังมีแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ลดลงอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงความต้องการใช้น้ำมันสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ลดลง ตลอดจนการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูกาลขับขี่ ทำให้คาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น

              อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบอาจถูกกดดันจากการเจรจาข้อตกลงมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านและ 6 ประเทศมหาอำนาจที่เริ่มมีสัญญาณเชิงบวก ทำให้ตลาดกังวลต่ออุปทานส่วนเกินจากอิหร่านที่อาจเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 ปี 64 ประกอบกับความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในภูมิภาคเอเซีย ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง /เดือน

            อ่านเพิ่มเติม     คลิกที่นี่

***************************