สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลก ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากตลาดวิตกกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรงในภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้หลายประเทศ อาทิ เช่น อินเดีย ไต้หวัน สิงคโปร์ และไทย มีการบังคับใช้มาตรการจำกัดการเดินทางหรือมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในระยะสั้นอาจได้รับแรงกดดัน แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นแล้ว

              ราคากลางน้ำมันเบนซินตลาดภูมิภาคเอเชีย ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในเอเซีย ได้รับแรงกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะมาเลเซียและเวียดนาม

             ราคากลางน้ำมันดีเซลตลาดภูมิภาคเอเชีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในสหภาพยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการคลายมาตรการล็อกดาวน์

             แนวโน้มราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำ โดยได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเอเชียที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น หลังสิงคโปร์ไต้หวัน และอินเดีย ประกาศใช้มาตรการเข้มงวดทางสังคมอีกครั้ง ประกอบกับตลาดกังวลเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ชะลอตัวหลังสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่สุดของโลกชะลอการส่งออกวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปจนถึงเดือน ต.ค. 64 รวมทั้งการเจรจาข้อตกลงจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่มีความคืบหน้า อาจส่งผลให้มีอุปทานน้ำมันดิบเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น

             อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงหนุนความต้องการใช้น้ำมันที่เริ่มฟื้นตัวจากการคลายมาตรการล็อคดาวน์ในยุโรปและสหรัฐฯ และบริษัทโคโลเนียล ไปป์ ไลน์ (Colonia Pipeline) ซึ่งเป็นผู้บริการท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ สามารถกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ซึ่งช่วยลดความกังวลในการขาดแคลนน้ำมันสำเร็จรูปบริเวณฝั่งตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ กอปรกับศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐคาดว่า อาจจะเกิดพายุดีเปรสชัน หรือพายุโซนร้อนในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งจะกระทบการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ

            อ่านเพิ่มเติม     คลิกที่นี่

***************************