• Thailand (TH) language switcher
  • English (UK) language switcher

White Style normal-style white-yellow

decrease-font normal-font increase-font

Calendar  Youtube Youtube Facebook    
  • HOME
  • About Us
    • Company Profile
    • Vision / Mission / Value / Duty
    • Organization Structure
    • Contact US
    • Sitemap
  • Policy and Plan
    • Government Policy Statement
    • Thai Integrated Energy Blueprint TIEB
      • Thailand Power Development Plan
      • Thailand Energy Efficiency Development Plan
      • Alternative Energy Development Plan
      • Oil Plan
  • Related Laws
    • Acts / Royal ordinance
  • Energy Information Services
    • Energy Situation
      • Energy Situation in year 2015 and trend in year 2016
      • The energy situation in the first tenth months of 2015 and outlook for 2015
      • The energy situation in the first nine months of 2015 and outlook for 2015
      • The energy situation in the first eight months of 2015 and outlook for 2015
    • Xayaburi Hydroelectric Power Project
    • Thailand – Myanmar’s Energy Cooperation Projects
    • Electricity Trade between Thailand and Malaysia.
    • Power Purchased from Laos PDR.
    • Economic and Power Trading in the Greater Mekong Sub-region
    • Thailand energy report 2015
  • Energy Statistics
    • Summary Statistic
    • Petroleum Statistic
    • NGV Statistic
    • Coal and Lignite Statistic
    • Electricity Statistic
    • Energy Economy Statistic
    • Value Energy Statistic
    • Petroleum Price Statistic
    • CO2 Statistic
    • Indicators Statistic
Tuesday, 05 July 2016 15:57

encon fund

มติคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ครั้งที่ 1/2552 (ครั้งที่ 49)
วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.30 น.
ณ ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล


1. รายงานฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552
2. รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 2549 และ 2550 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
3. รายงานการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2550
4. งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
5. เกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2552
6. การนำเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานฝากธนาคารของรัฐ
7. การขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
8. การขอขยายระยะเวลาผูกพันและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ปีงบประมาณ 2551 ของ พพ.


รองนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ สภาวสุ) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ


ฝ่ายเลขานุการฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า นายปิยะวัติ บุญ-หลง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ตามหนังสือที่ นร 6809/0143/2552 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2552 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นไป เนื่องจากหมดวาระการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย

มติที่ประชุม
     รับทราบการลาออกจากคณะกรรมการกองทุนฯ ของนายปิยะวัติ บุญ-หลง


เรื่องที่ 1 รายงานฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552
     ฝ่ายเลขานุการฯ ได้รายงานที่ประชุมเพื่อทราบฐานะการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 มีเงินคงเหลือ จำนวน 10,632,792,295.63 บาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้

1. เงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 5,465,968,767.07 บาท
2. เงินโครงการพัฒนาระบบการขนส่ง 5,166,823,528.56 บาท
รวมเป็นเงิน 10,632,792,295.63 บาท
ประกอบด้วย
1) เงินฝากธนาคารกรุงไทย - ออมทรัพย์ 10,556,897,955.63 บาท
2) เงินฝากธนาคารกสิกรไทย - ออมทรัพย์ 75,894,340.00 บาท

มติที่ประชุม
     ที่ประชุมรับทราบฐานะการเงินกองทุนฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ


เรื่องที่ 2 รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 2549 และ 2550 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
1. ระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ข้อ 30 กำหนดให้กรมบัญชีกลาง (บก.) จัดทำรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนและเงินคงเหลือบัญชีเงินฝากกองทุนฯ เพื่อเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เป็นรายไตรมาส และส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อทราบ และให้จัดทำงบการเงินประจำปีส่งให้ สตง. ตรวจสอบรับรอง แล้วรายงานให้คณะกรรมการกองทุนฯ ทราบต่อไป
2. บก. ได้รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 2549 และ 2550 โดย สตง. มีข้อเสนอแนะให้กองทุนฯ ดำเนินการต่างๆ ดังนี้
     2.1 ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) นำเงินกองทุนฯ ที่เบิกจาก บก. และค้างจ่ายอยู่ที่ สนพ. ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 จำนวน 184,476,648.16 บาท เพื่อรอจ่ายให้กับผู้ได้รับจัดสรรเงินกองทุนฯ หรือคู่สัญญา ตามโครงการต่างๆ โดยให้เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินดังกล่าว ที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว หากโครงการใดมีปัญหาอุปสรรค ที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนงานเดิม ก็ควรส่งเงินจำนวนนั้นคืนกองทุนฯ
     2.2 ให้ สนพ. นำเงินสนับสนุนทุนการศึกษา ทุนวิจัย ทุนฝึกอบรม และเงินพัฒนาหลักสูตรสื่อการเรียนการสอน ที่เบิกจากกองทุนฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2543 - 2549 และค้างอยู่ที่ สนพ. ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2551 จำนวน 14,083,873.77 บาท ส่งคืนกองทุนฯ
     2.3 ให้เรียกเงินคืนจาก กทม. ในส่วนที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนฯ และมิได้ดำเนินการตามแผนที่กำหนด ตามโครงการจัดซื้อรถเก็บขนมูลฝอยชนิดใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง จำนวน 45,500,000 บาท พร้อมดอกผลนำส่งคืนกองทุนฯ โดยเร็ว
     2.4 ให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) นำเงินค่าปรับจำนวน 1,149,457.80 บาท และเงินหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2545-2549 ที่สถาบันการเงินส่งคืนรวมทั้งดอกเบี้ย ส่งคืนกองทุนฯ จำนวน 1,283,204,374.89 บาท
     2.5 ให้ตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้โครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ ไม่สามารถดำเนินการตามแผนงานหรือการดำเนินงานไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และหาแนวทางแก้ไขเพื่อให้การใช้จ่ายเงินกองทุนฯ บรรลุวัตถุประสงค์ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ข้อ 25
     2.6 ให้นำเสนอผลการตรวจสอบของ สตง. ให้คณะกรรมการกองทุนฯ รับทราบปัญหา อุปสรรค จากผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาสั่งการให้มีการปฏิบัติตามแผนงานที่กำหนด และให้การดำเนินงานโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ โดยถือปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ข้อ 30 โดยเคร่งครัด
3. สนพ. และ พพ. ได้ดำเนินการตามที่ สตง. ได้เสนอแนะแล้ว โดยได้ส่งเงินคืนกองทุนฯ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552

มติที่ประชุม
     ที่ประชุมรับทราบรายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 2549 และ 2550 ของ สตง. ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ และในส่วนโครงการจัดซื้อรถเก็บขนมูลฝอยชนิดใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ที่ประชุมได้มีมติให้ฝ่ายเลขานุการฯ แจ้ง กทม. ให้ยุติโครงการและส่งเงินคืนกองทุนฯ โดยให้ กทม. ยื่นขอรับการสนับสนุนอีกครั้ง เมื่อพร้อมที่จะดำเนินโครงการดังกล่าว


เรื่องที่ 3 รายงานการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2550
1. คณะกรรมการกองทุนฯ ได้แต่งตั้ง "คณะทำงานเตรียมการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน)" เพื่อทำหน้าที่ในการเตรียมการเพื่อดำเนินการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน โดยมี ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานคณะทำงานฯ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินกองทุนฯ เป็นคณะทำงานฯ และผู้แทน สนพ. เป็นคณะทำงานและเลขานุการฯ
2. "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ได้เข้าสู่ระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนของ บก. ในปีประจำบัญชี 2549 โดยมีประธานกรรมการกองทุนฯ เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน) กับกระทรวงการคลัง โดย บก. ได้มอบหมายให้ บริษัท ไทยเรตติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด เป็นผู้ดำเนินการประเมิน
3. เพื่อให้การประเมินผลการดำเนินงานฯ มีเกณฑ์ที่เหมาะสม ถูกต้อง ตามสภาพความเป็นจริงของการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงาน บก. จึงได้กำหนดเกณฑ์ประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้าน รวม 7 ตัวชี้วัด ดังนี้
     1. ผลการดำเนินงานด้านการเงิน (15%)
          ตัวชี้วัดที่ 1.1 ร้อยละของงบประมาณที่มีการผูกพันสัญญาต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนฯ ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2550 อยู่ในระดับร้อยละ 94.01 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 3.8020
          ตัวชี้วัดที่ 1.2 ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริหารกองทุนฯ ที่เกิดขึ้นจริงเทียบกับงบประมาณ ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2550 อยู่ในระดับร้อยละ 69.64 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
     2. ผลการดำเนินงานด้านปฏิบัติการ (30%)
          ตัวชี้วัดที่ 2.1 ร้อยละของโครงการที่มีการทำสัญญาของแต่ละแผนงาน ต่อจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติทั้งหมดของแต่ละแผนงาน ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2550
               - แผนพลังงานทดแทน อยู่ในระดับร้อยละ 95.00 ส่งผลให้ได้คะแนน 4.0000
               - แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อยู่ในระดับร้อยละ 94.05 ส่งผลให้ได้คะแนน 3.8100
               - แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ อยู่ในระดับร้อยละ 100 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
          ตัวชี้วัดที่ 2.2 ร้อยละของจำนวนโครงการที่สามารถดำเนินงานได้ตามแผนภายระยะเวลาที่กำหนดต่อจำนวนโครงการทั้งหมด
               - แผนพลังงานทดแทน อยู่ในระดับร้อยละ 76.03 ส่งผลให้ได้คะแนน 1.0000
               - แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อยู่ในระดับร้อยละ 64.44 ส่งผลให้ได้คะแนน 1.0000
               - แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ อยู่ในระดับร้อยละ 100 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 5.0000
     3. การสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (15%)
          ตัวชี้วัดที่ 3.1
               - การศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างการบริหารกองทุนฯ เนื่องจากคณะอนุกรรมการกองทุน มีอำนาจคัดเลือกโครงการและมีอำนาจในการบริหารจัดการมากขึ้นแล้ว ตาม พรบ. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 จึงไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน 3 ขั้นตอนได้ ทำให้มีระดับคะแนน 1.0000
               - การศึกษารูปแบบการบริหารกองทุนฯ เนื่องจากมี กฎหมายที่กำหนดให้จัดตั้งกองทุนในกระทรวงพลังงานแล้ว ตาม พรบ. (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550 จึงไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน 3 ขั้นตอน ส่งผลให้มีระดับคะแนน 1.0000
     4. การบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน (40%)
          ตัวชี้วัดที่ 4.1 เนื่องจากกองทุนฯ จะโอนจาก กระทรวงการคลังมายังกระทรวงพลังงาน เพื่อรอความชัดเจนของการโอนงาน จึงยังไม่ได้ดำเนินการตามแผนที่วางไว้ และคาดว่าการพัฒนา/ปรับปรุงโปรแกรมสำเร็จรูปการบริหารการเงินจะดำเนินการได้ประมาณปี 2552 ส่งผลให้ได้รับคะแนน 2.5292
          ตัวชี้วัดที่ 4.2 การติดตามประเมินผลตามวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สิ้นปี 2550 ได้สรุปรายงานการติดตามประเมินผลลัพธ์ และเสนอคณะอนุกรรมการประเมินผลฯ โดยได้รับความเห็นชอบ ภายใน 30 กันยายน 2550 ส่งผลให้มีระดับคะแนน 5.0000 ทำให้ผลการดำเนินงานดีกว่าเป้าหมายมาก
4. ในปีบัญชี 2549 TRIS ประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ โดยภาพรวม อยู่ในระดับ 3.6036 คะแนน และสำหรับในปีบัญชี 2550 บก. ได้รายงานผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ให้ทราบว่า อยู่ในระดับ 2.843 คะแนน

มติที่ประชุม
     ที่ประชุมรับทราบรายงานการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2550


เรื่องที่ 4 งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 ได้รับทราบแผนอนุรักษ์พลังงานและเป้าหมาย ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-2554 ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเสนอ โดยมีเป้าหมายและการดำเนินการจะลดปริมาณการใช้พลังงานลง 7,820 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือคิดเป็นร้อย 10.8 ของความต้องการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศในปี 2554 และกำหนดเป้าหมายการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้แทนพลังงานเชิงพาณิชย์ 8,858 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือคิดเป็นร้อยละ 12.2 ของความต้องการใช้พลังงานในปี 2554
2. ณะกรรมการกองทุนฯ ได้จัดสรรเงินกองทุนฯ จำนวน 89,848,165,183 บาท เพื่อนำไปช่วยเหลือ อุดหนุน หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน สนับสนุนการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว เป็นรายจ่ายสำหรับแผนอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 18,881 ล้านบาท และงบประมาณรอจ่ายสำหรับ โครงการลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง จำนวน 70,967 ล้านบาท โดยอนุมัติจำนวนเงินจำแนกตามแผนงานรายปี ดังนี้

ปีงบประมาณ 2551 2552 2553 2554 2555 รวม 5 ปี
1. แผนพลังงานทดแทน 4,838 1,190 1,315 880 1,110 9,332
2. แผนเพิ่มประสิทธิภาพฯ 12,549 15,927 17,940 17,116 16,736 80,267
- ดำเนินการตามแผนอนุรักษ์ฯ 5,838 2,356 428 351 328 9,300
- ลงทุนพัฒนาระบบการขนส่ง 6,711 13,571 17,512 16,765 16,408 70,967
3. แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ 249 249
รวม (ล้านบาท) 17,635 17,116 19,255 17,996 17,846 89,848
รวม (ล้านบาท) ไม่รวมขนส่ง 10,924 3,545 1,743 1,231 1,438 18,881

3.ความคืบหน้าของการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ เป็นไปตามแผนฯ โดยงบประมาณปี 2551 จำนวน 10,924 ล้านบาท มีการเบิกจ่าย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จำนวน 2,393 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22 และเป็นเงินส่งคืนกองทุนฯ จำนวน 924 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8 โดยรายจ่ายผูกพันของงบประมาณปี 2551 จำนวน 7,607 ล้านบาท โดยสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้

     (1) เป้าหมายและผลลดการใช้พลังงาน ภาคอุตสาหกรรม

แผนและเป้าหมาย 2549 2550 2551 2552 2553 2554
1. การดำเนินการตาม พรบ. * - - 25 50 100 211
2. การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี 52 134 232 341 454 570
แผนและเป้าหมาย 2549 2550 2551 2552 2553 2554
3. การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 75 200 300 400 500 600
4. ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ESCO 12 49 97 153 224 300
5. การอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม 47 100 200 300 400 551
6. การสาธิตเทคโนโลยีระดับสูง - 9 25 50 100 200
7. DSM Bidding+โรงแรม 75 149 149 149 149
8. นโยบาย CoGen 311 358 406 500 608
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) 186 878 1,387 1,849 2,427 3,190
ผลประหยัด ktoe (สะสม) ณ ปี 255 1,345

     
     (2) เป้าหมายและผลลดการใช้พลังงาน ด้านการจัดการ

แผนและเป้าหมาย 2549 2550 2551 2552 2553 2554
1. มาตรฐานเครื่องจักรอุปกรณ์ไฟฟ้า
กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ (MEPs) 7 36 63 93 134 179
กำหนดมาตรฐานขั้นสูง (Labeling) 70 77 81 100 120 158
2. มาตรฐานเครื่องจักรอุปกรณ์ความร้อน
กำหนดมาตรฐานขั้นสูง เตา LPG 3 6 8 11 14
3. มาตรฐานสำหรับยานยนต์ 4 8 40 100 140
4. มาตรฐานสำหรับอาคาร 1 1 1
5. ส่งเสริมการใช้งานอุปกรณ์ 1 10 19 28
6. ส่งเสริมการใช้เตาถ่านประสิทธิภาพสูง 6 17 28 46 68
7. ส่งเสริม CFL 2 17 31 46 46
8. ส่งเสริม T5 18 56 148 260 408
9. รณรงค์สร้างจิตสำนึก/ราชการ 49 79 111 140 172 176
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) 126 225 360 599 908 1,217
ผลประหยัด ktoe (สะสม) ณ ปี 2551 223


     (3) เป้าหมายและผลลดการใช้พลังงาน ภาคขนส่ง

แผนและเป้าหมาย 2549 2550 2551 2552 2553 2554
1. ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชน 127 136 144 153 1,441 1,554
2. ปรับปรุงระบบจัดการจราจร 25 34 45 60 80 106
3. ส่งเสริมธุรกิจ LOGISTIC DEPOT และ ICD 100 100 450 800 1,150 1,450
4. สร้างเครือข่ายระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ 155 167 180 180 180 180
5. นโยบาย ECO CAR 0 0 0 26 66 123
เป้าหมายผลประหยัด ktoe (สะสม) 407 437 819 1,219 2,917 3,413
ผลประหยัด ktoe (สะสม) ณ ปี 2551 445


     (4) เป้าหมายและผลลดการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน

ประเภท ผล เป้าหมาย ผล เป้าหมาย ตามแผน 15 ปี หน่วย
ปี 2550 ปี 2551 ปี 2551 ปี 2554 ปี 2554*
1. การผลิตไฟฟ้า
(1) พลังงานแสงอาทิตย์ 32 34 36 45 55 MW
(2) พลังงานลม 0.96 16 3.1 115 150 MW
(3) พลังงานน้ำ 50 59 66 156 165 MW
(4) พลังงานชีวมวล 1,507 1,807 1,655 2,800 2,800 MW
(5) ขยะ 4.25 14.3 4.25 100 60 MW
(6) ก๊าซชีวภาพ 29.2 34.2 68.8 60 100 MW
2. การใช้ความร้อน
(7)พลังงานชีวมวล 2,345 2,645 2,406 3,660 3,544 ktoe/ปี
(8)ก๊าซชีวภาพ 79 140 144 370 540 ktoe/ปี
(9)พลังงานแสงอาทิตย์ 0.3 0.9 0.3 5 17 ktoe/ปี
3. การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ
(8) เอทานอล 0.55 1.3 0.8 2.4 3 ล้านลิตร/วัน
(9) ไบโอดีเซล 0.07 1.2 1.3 3 3 ล้านลิตร/วัน


4. กระทรวงพลังงาน มีการพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2552 เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้มีงบประมาณสำหรับใช้เป็นหลักในการใช้จ่ายเป็นเงินหมุนเวียน เงินช่วยเหลือ หรือเงินอุดหนุนสำหรับการลงทุน และดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน มาตรา 25 แห่ง "พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" โดยมี "คณะทำงานพิจารณากลั่นกรองงบประมาณประจำปี 2552 ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ที่ประธานคณะอนุกรรมการกองทุนฯ แต่งตั้ง ทำหน้าที่กลั่นกรองงบประมาณและแผนการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ที่จะขอจัดสรรจากกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ 2552 ซึ่งคณะทำงานฯ ได้ยึดตามภารกิจสำคัญ 3 ด้าน ดังนี้
     (1) ภารกิจตามข้อกำหนดและกฎหมาย พ.ร.บ.ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
     (2) ภารกิจตามยุทธศาสตร์ระดับชาติ นโยบายรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน
     (3) ภารกิจตามเจตนารมณ์ของกองทุนฯ ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และตามแผนและเป้าหมายอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2551-2554
     คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายเรียบร้อยแล้ว สรุปผลงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของกองทุนฯ เป็นจำนวนไม่เกิน 2,405,004,804 บาท โดยแบ่งรายจ่ายออกเป็น 2 หน่วยงานผู้เบิกเงินกองทุนฯ คือ พพ. จำนวน 1,549,388,680 บาท และ สนพ. จำนวน 855,616,124 บาท
5. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2552 ได้รับทราบผลการดำเนินงานในช่วงปี 2551 และพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552 ของกองทุนฯ แล้ว เห็นควรให้เพิ่มเติมงบประมาณแผนพลังงานทดแทน งานศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค โครงการปรับปรุงสถานีสำรวจศักยภาพพลังงานลมจาก 12,000,000 บาท เป็น 27,000,000 บาท เพื่อให้ พพ. ดำเนินการติดตั้งสถานีสำรวจศักยภาพพลังงานลมเพิ่มเติม ในส่วนที่ พพ. ไม่สามารถดำเนินการผูกพันงบประมาณได้ทันในปีงบประมาณ 2551 จึงเห็นชอบรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เป็นจำนวน 2,420,004,804 บาท ดังนี้

จำแนกตามแผนอนุรักษ์พลังงาน รวม ร้อยละ จำแนกตามหน่วยผู้เบิก (บาท)
พพ. สนพ.
1. แผนพลังงานทดแทน 974,012,560.00 40.25% 436,388,680.00 537,623,880.00
1.1 งานศึกษาวิจัยพัฒนา 236,540,000.00 10% 86,540,000.00 150,000,000.00
1.2 งานส่งเสริมและสาธิต 275,895,680.00 11% 275,895,680.00 -
1.3 งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ 435,276,880.00 18% 47,653,000.00 387,623,880.00
1.4 งานบริหารแผนงาน 26,300,000.00 1% 26,300,000.00
2. แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 1,329,700,000.00 54.95% 1,128,000,000.00 201,700,000.00
2.1 งานศึกษาวิจัยพัฒนา 93,500,000.00 4% 58,500,000.00 35,000,000.00
2.2 งานส่งเสริมและสาธิต 1,011,500,000.00 42% 1,011,500,000.00 -
2.3 งานพัฒนาบุคลากรและประชาสัมพันธ์ 202,200,000.00 8% 35,500,000.00 166,700,000.00
2.4 งานบริหารแผนงาน 22,500,000.00 1% 22,500,000.00
3. แผนบริหารเชิงกลยุทธ์ 116,292,244.00 4.81% - 116,292,244.00
3.1 งานศึกษาวิจัยเชิงนโยบาย 15,000,000.00 1% - 15,000,000.00
3.2 งานบริหารแผนงาน 101,292,244.00 4% - 101,292,244.00
รวมงบประมาณ กทอ. ปี 2552 2,420,004,804.00 100% 1,564,388,680.00 855,616,124.00


     เนื่องด้วย พพ. และ สนพ. มีงานบริหารเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานที่ต้องดำเนินงานต่อเนื่อง เช่น การเบิกจ่ายเงินให้หน่วยงาน โครงการ ตามข้อผูกพันสัญญาฯ การประสานหน่วยงาน โรงงาน อาคาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอนุรักษ์พลังงาน การให้คำแนะนำกับประชาชนในเรื่องวิธีประหยัดพลังงาน ฯลฯ จึงมีรายจ่ายประจำที่จำเป็นเพื่อการบริหารงานที่เกิดขึ้นแล้ว ได้แก่ ค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการสัมมนา ค่าใช้จ่ายในการจัดงานวันครบรอบสถาปนา สนพ. และ เงินสมทบกองทุนประกันสังคมฝ่ายนายจ้าง เป็นต้น ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเห็นควรเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาเห็นชอบให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ของกองทุนฯ งานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551

มติที่ประชุม
     อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552 ของกองทุนฯ เป็นจำนวน 2,396,252,804 บาท (สองพันสามร้อยเก้าสิบหกล้านสองแสนห้าหมื่นสองพันแปดร้อยสี่บาทถ้วน) โดยแบ่งรายจ่ายออกเป็น 2 หน่วยงานผู้เบิกเงินกองทุนฯ ดังนี้
     (1) พพ. จำนวน 1,540,636,680 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยสี่สิบล้านหกแสนสามหมื่นหกพันหกร้อยแปดสิบบาทถ้วน)
     (2) สนพ. จำนวน 855,616,124 บาท (แปดร้อยห้าสิบห้าล้านหกแสนหนึ่งหมื่นหกพันหนึ่งร้อยยี่สิบสี่บาทถ้วน)
                                                                                              หน่วย : บาท

หน่วยงาน แผนพลังงานทดแทน แผนเพิ่มประสิทธิภาพฯ แผนงานบริหารทางกลยุทธ์ รวม
1) พพ. 412,636,680 1,128,000,000 1,540,636,680
2) สนพ. 537,623,880 201,700,000 116,292,244 855,616,124

     นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติให้ค่าใช้จ่ายในงานบริหารของทั้ง 3 แผนงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 โดยให้แต่ละหน่วยงานสามารถถัวจ่ายและเปลี่ยนแปลงรายการในหมวดต่างๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม


เรื่องที่ 5 เกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีบัญชี 2552
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 มีมติอนุมัติให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีเงินนอกงบประมาณ ถือปฏิบัติตามมาตรการกำกับดูแลเงินนอกงบประมาณ ที่กระทรวงการคลังเสนออย่างเคร่งครัด โดยให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ติดตามผลการดำเนินงาน ซึ่ง บก. เริ่มใช้ระบบประเมินผลทุนหมุนเวียนตั้งแต่ปีบัญชี 2547 เป็นต้นไป โดยกองทุนฯ เป็นทุนหมุนเวียนที่เข้าสู่ระบบประเมินผลการดำเนินงาน ตั้งแต่ปีบัญชี 2549
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้จัดประชุมเพื่อหารือระหว่างผู้ถูกประเมินกับผู้ประเมิน คือ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ทริส) เพื่อจัดทำร่างเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2552 และ ตัวชี้วัดที่จะต้องทำการประเมินที่เหมาะสม ถูกต้อง ตามสภาพความเป็นจริงของการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงาน
3. บก. ได้มีหนังสือเรื่อง "การลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552" ให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอให้ประธานกรรมการกองทุนฯ ลงนามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานฯ และส่งคืน บก. ภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ ได้มีหนังสือเวียนถึง "คณะทำงานเตรียมการเพื่อดำเนินการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน (กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน)" โดยมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เพื่อขอความเห็นชอบร่างเกณฑ์การประเมินผลฯ ตามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552 ซึ่งคณะทำงานเตรียมการฯ ได้มีมติเห็นชอบร่างเกณฑ์การประเมินผลฯ ตามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552 และให้นำเสนอคณะอนุกรรมการกองทุนฯ และ คณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
4. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้พิจารณาบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552 ที่ประธานกรรมการกองทุนฯ จะลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินกับกระทรวงการคลัง ตามที่ บก. เสนอมาโดยให้สอดคล้องกับร่างเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2552 แล้ว โดยจะประเมินผลการดำเนินงานของกองทุน 4 ด้าน 10 ตัวชี้วัด สรุปได้ ดังนี้

เกณฑ์วัดการดำเนินงาน สาระสำคัญของเกณฑ์วัด
1. ผลการดำเนินงานด้านการเงิน (ร้อยละ 15)
ตัวชี้วัดที่ 1.1 ร้อยละของงบประมาณที่มีการผูกพันสัญญาต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนฯ
(ร้อยละ 10)
ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51 โดยปรับรายละเอียดให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของกองทุน
ตัวชี้วัดที่ 1.2 ค่าใช้จ่ายบริหารที่เกิดขึ้นจริงและผูกพันเทียบกับงบประมาณ
(ร้อยละ 5)
ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51 โดยปรับรายละเอียดให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของกองทุน
2. ผลการดำเนินงานด้านปฏิบัติการ (ร้อยละ 33)
ตัวชี้วัดที่ 2.1 ร้อยละของจำนวนโครงการที่มีการทำสัญญา ของแต่ละแผนงาน ต่อจำนวนโครงการ ที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด ของแต่ละแผนงาน
(ร้อยละ 16)
  • แผนพลังงานทดแทน
  • แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
  • แผนบริหารทางกลยุทธ์
ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51
ตัวชี้วัดที่ 2.2 ร้อยละความสำเร็จของจำนวนโครงการที่ผูกพันและดำเนินงานได้ตามแผนภายในปีบัญชี 2552 ต่อจำนวนโครงการที่ผูกพันและมีแผนดำเนินงานภายในปีบัญชี 2552
(ร้อยละ 17)
  • แผนพลังงานทดแทน
  • แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
  • แผนบริหารทางกลยุทธ์
ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51
3. การสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (ร้อยละ 15)
ตัวชี้วัดที่ 3.1 การจัดทำแผนการปรับปรุงการให้บริการจากผลสำรวจความพึงพอใจและการดำเนินงานตามแผนการปรับปรุงฯ ประจำปีบัญชี 2552
(ร้อยละ 15)
ดำเนินงานต่อจากปี 51 ซึ่งได้สำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการกองทุนไว้เสร็จแล้ว โดยในปี 52 เป็นการจัดทำแผนการปรับปรุงการดำเนินงานจากผลสำรวจความพึงพอใจ พร้อมกับดำเนินงานตามแผนให้ทันภายใน 30 กันยายน 2552
4. การบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน (ร้อยละ 37)
ตัวชี้วัดที่ 4.1 การทบทวนแผนกลยุทธ์กองทุนฯ
(ร้อยละ10)
เป็นการทบทวนแผนกลยุทธ์ของกองทุนซึ่งเคยทำไว้เมื่อปี 49 ให้ทันสมัย โดยต้องวิเคราะห์สถานการณ์สิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์ SWOT กองทุน ตลอดจนกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายระยะยาว และเป้าหมายประจำปี เพื่อนำไปสู่การบรรลุตามวิสัยทัศน์ของกองทุนฯ และแผนจะได้ระดับ 5 เมื่อได้รับความเห็นชอบจากประธานคณะทำงานเตรียมการฯ
ตัวชี้วัดที่ 4.2 การจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีบัญชี 2553
(ร้อยละ 7)
เป็นการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีบัญชี 2553 ให้มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ของกองทุน ตามตัวชี้วัด 4.1 โดยมีการกำหนดเป้าหมาย น้ำหนัก ผลลัพธ์ ที่สามารถวัดได้ในแต่ละกิจกรรมไว้อย่างชัดเจน และสามารถใช้ในการประเมินผลได้
ตัวชี้วัดที่ 4.3 การดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีบัญชี 2552
(ร้อยละ 8)
  • การศึกษาและปรับปรุงระบบฐานข้อมูลสารสนเทศและโปรแกรมสำเร็จรูปของกองทุนฯ
เป็นการศึกษาและปรับปรุงระบบฐานข้อมูลสารสนเทศและโปรแกรมสำเร็จรูปของ 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกองทุน คือ สนพ. และ พพ. ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยในปี 52 เป็นการศึกษาระบบที่มีอยู่แล้วของทั้ง 2 หน่วยงาน และในปี 53 จึงเริ่มดำเนินการ
  • การพัฒนาบุคลากรกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2552
เป็นการประเมินเกี่ยวกับการจัดประชุม/สัมมนา เกี่ยวกับปัญหาของหน่วยงานภายในกองทุน และการจัดอบรมให้ความรู้แก่หน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรเงินของกองทุน
ตัวชี้วัดที่ 4.4 การติดตามประเมินผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ร้อยละ 7) ประเมินผลการดำเนินงานเช่นเดียวกับปี 49 50 และ 51 และปรับรายละเอียดให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการประเมินผลภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน
ตัวชี้วัดที่ 4.5 บทบาทของผู้บริหารกองทุนฯ
(ร้อยละ 5)

เป็นตัวชี้วัดร่วมของกองทุนต่างๆ กับกระทรวงการคลัง ที่มีสินทรัพย์ของกองทุนตั้งแต่พันล้านบาทขึ้นไป

ตัวชี้วัดนี้เป็นประเมินการทำหน้าที่ของผู้บริหารกองทุนฯ และฝ่ายเลขานุการฯ เพื่อให้ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนที่อยู่ในความดูแลซึ่งประกอบด้วย

1. คณะอนุกรรมการกองทุนฯ

2. คณะทำงานเตรียมการเพื่อดำเนินการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน (กองทุนฯ) ที่มี ปพน. เป็นประธาน

3. สนพ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ ของทั้ง 2 คณะ

ประเด็นสำคัญในการประเมินคือ

1. มีการประชุมและติดตามการดำเนินงานของคณะกรรมการทั้ง 2 คณะ ทุกไตรมาสหรือไม่ รวมทั้งมีมติ ข้อเสนอแนะและข้อสังเกตอย่างไร

2. ในส่วนของ สนพ. ได้ดำเนินการตามมติตามข้อ 1 ครบถ้วนหรือไม่

มติที่ประชุม
     เห็นชอบเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปีบัญชี 2552 และ มอบอำนาจให้ประธานคณะกรรมการกองทุนฯ ลงนามในบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2552 กับ กระทรวงการคลัง ต่อไป


เรื่องที่ 6 การนำเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานฝากธนาคารของรัฐ
1. พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ตามมาตรา 24 ได้กำหนดให้จัดตั้ง "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ในกระทรวงพลังงาน เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน และใช้จ่ายช่วยเหลือ หรือ อุดหนุนการดำเนินงาน และ พรบ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 มาตรา 24/1 กำหนดให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน และเงินจาก "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในกระทรวงการคลัง" ไปเป็นของ "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน" โดยปลัดกระทรวงพลังงานมอบหมายให้ สนพ. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกองทุนฯ เป็นผู้รับโอนงาน
2. สนพ. ฝากเงินกองทุนฯ ไว้กับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสะพานขาว ประเภทออมทรัพย์ และเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ (ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขา กิ่งเพชร) สำหรับรองรับการโอนเงินจากบัญชีเงินฝากกองทุนฯ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเบิกจ่ายเงิน และโอนเงินให้แก่ผู้เบิกเงินกองทุน ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกองทุนฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2551 ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน และการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 หมวด 1 การรับเงินกองทุน ข้อ 6.
3. เงินรวมของกองทุนฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 มีจำนวนประมาณ 10,632 ล้านบาท โดยเป็นเงินรอจ่ายให้กับผู้เบิกเงินกองทุนฯ คือ สนพ. และ พพ. นำไปใช้จ่ายตามแผนการใช้จ่ายเงินประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนจำนวนเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 4,600 ล้านบาท จะเก็บอยู่ใน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสะพานขาว ประเภทออมทรัพย์ และเกิดดอกผลในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ปัจจุบัน ร้อยละ 0.50 บาทต่อปี ทำให้กองทุนฯ เสียโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนในระดับสูงจากเงินฝากที่มีอยู่ 4,600 ล้านบาท ทั้งนี้ โดยวิธีปฏิบัติเมื่อครั้งที่กองทุนฯ ยังอยู่ในกระทรวงการคลังนั้น บก. จะนำเงินกองทุนฯ ส่วนที่เกินความจำเป็นใช้ตามช่วงเวลานั้นๆ ไปฝากกับสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเภทฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน หรืออื่นๆ ที่มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่สูงกว่าประเภทออมทรัพย์ ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะบริหารเงินของกองทุนฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. สนพ. (ในฐานะผู้เก็บรักษาเงินของกองทุนฯ) เห็นว่า ถ้าสามารถจัดสรรเงินโดยคำนึงถึงสภาพคล่องของกองทุนฯ และนำเงินส่วนที่เกินความจำเป็นต้องใช้ตามช่วงเวลานั้นๆ ไปฝากกับสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเภทฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน หรืออื่นๆ เหมือนดังที่ บก. ได้เคยปฏิบัติไว้ ก็จะเป็นอีกทางหนึ่งที่การบริหารเงินของกองทุนฯ จะเกิดประโยชน์มากขึ้น

มติที่ประชุม
     เห็นชอบและมอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาอนุมัติวงเงินและประเภทเงินฝากที่จะนำเงินกองทุนฯ ที่เกินความจำเป็นในการเบิกจ่ายเงินตามภาระผูกพัน ฝากธนาคารที่เป็นของรัฐ โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง และเมื่อดำเนินการแล้วให้รายงานคณะกรรมการกองทุนฯ รับทราบต่อไป


เรื่องที่ 7 การขอปรับรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนฯ อนุมัติไว้แล้ว
1. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ไปแล้ว ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการจากที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้พิจารณาและอนุมัติไว้ รวมจำนวน 52 โครงการ โดยตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินฯ ตามข้อ 1.3 (2) หมวด 3 ข้อ 24 กำหนดว่า การเปลี่ยนแปลงรายการ ระยะเวลาดำเนินการไปจากรายละเอียดโครงการที่คณะกรรมการกองทุนได้อนุมัติไว้แล้ว จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนฯ ก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงได้
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้พิจารณาเหตุผลและรายละเอียดที่เจ้าของโครงการฯ ทั้ง 52 โครงการ ได้แจ้งขอเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยจำแนกเรื่องที่ขอเปลี่ยนแปลงออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
     2.1 ขอเปลี่ยนแปลง เพื่ออนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ เกิน 3 เดือนนับจากวันสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา จำนวน 17 โครงการ
          มีสาเหตุจาก คู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุน ไว้กับ พพ. จำนวน 10 โครงการ และ สนพ. จำนวน 7 โครงการ โดยคู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรได้ส่งงาน/รายงานตามเวลาที่กำหนดไว้แล้ว แต่การตรวจรับงานของ พพ. และ สนพ. พบว่าผลงานยังไม่สมบูรณ์ตามข้อตกลง เช่น ขาดรายละเอียด ขาดข้อมูลหรือเอกสารอ้างอิง ขาดประเด็นสำคัญ ฯลฯ และให้คู่สัญญาหรือผู้ได้รับจัดสรรเงินนั้น ดำเนินการให้รายงานฉบับนั้นๆ เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งการปรับปรุงรายงานได้ใช้เวลาระยะหนึ่ง ที่ส่งผลให้เลยกำหนดระยะเวลา 3 เดือน นับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญาหรือหนังสือยืนยันการรับทุน พพ. และ สนพ. จึงได้เสนอขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นๆ
          การปฏิบัติข้างต้น เป็นการดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ข้อ 16 ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายเงินกองทุนไว้ "ให้ผู้เบิกเงินกองทุนใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันตามประมาณการรายจ่ายประจำปีได้ ภายในวงเงินและปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ กรณีผู้เบิกเงินกองทุนก่อหนี้ผูกพันภายในปีงบประมาณแต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณนั้นๆ ให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายรายการนั้นๆ ต่อไปได้ ภายในสาม (3) เดือนนับจากเวลาสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญา"
          ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นว่าการขยายเวลาของทั้ง 17 โครงการดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับแล้ว และไม่ได้ทำให้ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการลดลง จึงเห็นควรให้ทั้ง 17 โครงการดังกล่าว ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายแต่ละรายการ ได้ตามที่เสนอมา โดยให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายออกไปได้อีก 3 เดือน นับจากวันที่คณะกรรมการกองทุนฯ มีมติอนุมัติ
     2.2 ขอเปลี่ยนแปลง เพื่ออนุมัติขยายระยะเวลาโครงการฯ จำนวน 26 โครงการ
          มีสาเหตุจาก คู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้กับ พพ. และ สนพ. จำนวน 26 โครงการ แต่ละหน่วยงานได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น ต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูลสำหรับการทำวิทยานิพนธ์ การรอเวลาเพื่อนำผลงานวิจัยไปตีพิมพ์ทั้งในและต่างประเทศ การปรับรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่เป้าหมาย การทำงานวิจัยแล้วผลการทดลองมีความคลาดเคลื่อนไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จำเป็นต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ผลการทดลองเพิ่มเติม เป็นต้น
          ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นว่าการขยายเวลาของทั้ง 26 โครงการดังกล่าว เห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเจตนาของผู้ได้รับทุน และการเปลี่ยนแปลงแต่ละรายการไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับแล้ว และไม่ได้ทำให้ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการลดลง จึงเห็นควรให้ทั้ง 26 โครงการดังกล่าว ขยายระยะเวลาโครงการออกไปได้
     2.3 ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ และ/หรือ ขอขยายระยะเวลาดำเนินการ จำนวน 9 โครงการ
          มีสาเหตุจาก คู่สัญญาหรือผู้ได้รับเงินจัดสรรที่ได้ทำสัญญาจ้างหรือหนังสือยืนยันการรับทุนไว้แต่ละหน่วยงานได้ดำเนินการตามแผนงานที่เสนอไว้กับกองทุนฯ แล้ว แต่มีข้อจำกัดระหว่างการดำเนินงาน เช่น การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดกิจกรรมย่อยให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารของโครงการ และการขอโอนย้ายหน่วยงานในการชดใช้ทุนของผู้ได้รับทุนการศึกษา เป็นต้น
          ฝ่ายเลขานุการฯ เห็นว่าการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียด และ/หรือการขอขยายระยะเวลาดำเนินการดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะทำให้โครงการเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยไม่มีผลกระทบต่อวงเงินที่ได้รับแล้ว จึงเห็นควรให้ทั้ง 9 โครงการดังกล่าว เปลี่ยนแปลงรายละเอียด และ/หรือขยายระยะเวลาโครงการออกไปได้

มติที่ประชุม
     อนุมัติให้โครงการตาม ข้อ 2.1 ข้อ 2.2 และ 2.3 รวม 52 โครงการ โดยให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ เกิน 3 เดือนนับจากวันสิ้นสุดเงื่อนไขแห่งสัญญาหรือหนังสือยืนยันการรับทุน ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการฯ และปรับรายละเอียดโครงการฯ ได้ตามที่ขอมา


เรื่องที่ 8 การขอขยายระยะเวลาผูกพันและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ปีงบประมาณ 2551 ของ พพ.
1. พพ. ได้ขออนุมัติขยายระยะเวลาการผูกพันและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ สำหรับโครงการของ พพ. จำนวน 9 โครงการ ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ พบว่า การดำเนินงานโครงการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2551 สำหรับโครงการของ พพ. 9 โครงการ ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ในข้อ 16 ซึ่งระบุไว้ว่า "ให้ผู้เบิกเงินกองทุนใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันตามประมาณการรายจ่ายประจำปีได้ภายในวงเงินและปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ"
2. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้เชิญผู้แทนจาก พพ. บก. และนิติกรของกระทรวงพลังงาน ร่วมประชุมหารือเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2551 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาตามข้อกำหนดของระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่า ไม่มีข้อกำหนดหรือวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ผู้เบิกเงินกองทุนฯ ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ และจากข้อกำหนดของระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินกองทุน พ.ศ. 2537 ในข้อ 4 ซึ่งระบุไว้ว่า "หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในเรื่องการเก็บรักษาเงิน การเบิกจ่ายเงินและการพัสดุ ที่มิได้กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับหรือคำสั่งของทางราชการโดยอนุโลม ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการได้ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกองทุนกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง" ที่ประชุมจึงเห็นควรให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณา โดยให้ พพ. พิจารณาทบทวนถึงความจำเป็นในการขอขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันของโครงการทั้ง 9 โครงการ พร้อมทั้งชี้แจงปัญหาอุปสรรคของโครงการ เสนอคณะอนุกรรมการฯ และคณะกรรมการกองทุนฯ
3. พพ. ได้ชี้แจงว่ามีโครงการที่จำเป็นต้องขอก่อหนี้ผูกพัน เนื่องจากเป็นโครงการที่ดำเนินการประกวดราคาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน 4 โครงการ ดังนี้
     (1) โครงการปรับปรุงสถานีสำรวจศักยภาพพลังงานลม พพ. ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในวงเงิน 25,000,000 บาท โดยแยกการดำเนินงานเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย (1) ค่าบริหารโครงการ 850,000 บาท (2) ค่าปรับปรุงสถานีสำรวจศักยภาพพลังงานลม ส่วนการจัดทำโครงสร้างเสาวัดลมพร้อมติดตั้ง 15,000,000 บาท และ (3) ค่าปรับปรุงสถานีสำรวจศักยภาพลม ส่วนการจัดซื้อและติดตั้งเครื่องวัดลมและบันทึกข้อมูลพร้อมอุปกรณ์ประกอบ 9,150,000 บาท
     (2) โครงการสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมขนาดใหญ่ จ.ปัตตานี พพ. ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในวงเงิน 125,000,000 บาท โดยแยกการดำเนินงานเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย (1) ค่าจ้างศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม 1,500,000 บาท (2) ค่าอำนวยการและบริหาร 3,500,000 บาท และ (3) ค่ากังหันลมพร้อมติดตั้งและทดสอบ 120,000,000 บาท
     (3) โครงการรณรงค์และประกวดด้านอนุรักษ์ พพ. ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในวงเงิน 77,000,000 บาท
     (4) โครงการพัฒนาเซลล์แสงแดดไทยสู่ความเป็นเลิศ ระยะที่ 2 ปีที่ 1 พพ. ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนฯ ในวงเงิน 40,000,000 บาท

มติที่ประชุม
     เห็นชอบให้ พพ. ดำเนินการผูกพันรายจ่ายและการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ปีงบประมาณ 2551 สำหรับโครงการสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมขนาดใหญ่ จ.ปัตตานี ในวงเงิน 103,288,000 บาท และ โครงการรณรงค์และประกวดด้านอนุรักษ์พลังงาน สำหรับการจัดงาน "พลังงานก้าวไกล ประเทศไทยก้าวหน้า" ในวงเงิน 27,500,000 บาท ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 เดือน นับจากวันที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีมติอนุมัติ


Read 4749 times Last modified on Tuesday, 05 July 2016 17:18
Tweet
back to top
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)
กระทรวงพลังงาน
121/1-2 ถนนเพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร 0 2612 1555, โทรสาร 0 2612 1364
จากต่างประเทศ โทร +66 2612 1555, โทรสาร +66 2612 1364
Official Website : www.eppo.go.th

การปฎิเสธความรับผิดชอบ | นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์