คุณสมบัติเชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Properties)

ข้อดีของไฮโดรเจน
ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น สะอาด และไม่สร้างกลิ่นรบกวน มีค่าความร้อนสูงต่อหน่วยน้ำหนัก (HHV 141.8 MJ/kg, LHV 120 MJ/kg) เมื่อเผาไหม้จะได้เพียงไอน้ำ (H₂O) โดยไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา ความหนาแน่นเพียง 0.0899 kg/m³ เบากว่าอากาศถึง 14 เท่า จึงกระจายตัวได้รวดเร็ว
ข้อจำกัดของไฮโดรเจน
ไฮโดรเจนมีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณา เช่น ต้องใช้เซนเซอร์เฉพาะในการตรวจจับ ไม่มีสีและกลิ่น ค่าพลังงานต่อปริมาตรต่ำ จำเป็นต้องเก็บในแรงดันสูง (350–700 bar) หรืออุณหภูมิต่ำมาก (-253 °C) อีกทั้งยังติดไฟง่าย ช่วงการติดไฟกว้าง (4–75% vol. in air) และมีจุดติดไฟอัตโนมัติที่ -585 °C อีกทั้งเปลวไฟยังโปร่งใสทำให้มองเห็นยากเมื่อเกิดการลุกไหม้
การผลิตไฮโดรเจน (Hydrogen Production)
• Pink Hydrogen: ผลิตจากน้ำด้วยกระบวนการ Electrolysis โดยใช้พลังงานนิวเคลียร์ ข้อดีคือไม่เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่มีข้อจำกัดคือต้นทุนสูงและต้องจัดการกากนิวเคลียร์อย่างรอบคอบ
• Yellow Hydrogen: ผลิตจากน้ำด้วยกระบวนการ Electrolysis เช่นกัน แต่ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทั้งนิวเคลียร์ กริด แสงอาทิตย์ และลม ข้อดีคือสามารถผลิตได้แม้ใช้ไฟฟ้าจากโครงข่าย แต่ข้อจำกัดคือยังมีการปล่อย CO₂ ทางอ้อม หากไฟฟ้าที่ใช้มาจากแหล่งพลังงานฟอสซิล
• Turquoise, Blue และ Gray Hydrogen: ผลิตจากก๊าซธรรมชาติ (CH₄) ผ่านกระบวนการ Pyrolysis หรือ Reforming ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า Green Hydrogen แต่หากไม่มีการดักจับคาร์บอน ก็ยังคงมีการปล่อย CO₂ สู่บรรยากาศ
• Black Hydrogen: ผลิตจากถ่านหินด้วยกระบวนการ Gasification แม้จะมีข้อดีคือวัตถุดิบมีมากและเข้าถึงได้ง่าย แต่กลับมีข้อจำกัดใหญ่คือการปล่อย CO₂ ในระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่น
• White Hydrogen: เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการอุตสาหกรรม ผ่านการ Gasification ข้อดีคือสามารถนำของเหลือจากอุตสาหกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ข้อจำกัดคือปริมาณที่ได้ค่อนข้างจำกัด
***************************