มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
ครั้งที่ 1/2554 (ครั้งที่ 134)
วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 09.30 น.
ณ ห้องประชุม 219 อาคารรัฐสภา 2
นายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ประธานกรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายวีระพล จิรประดิษฐกุล) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นการชั่วคราวประมาณ 2 - 3 เดือน โดยมอบหมายคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการ และถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และเงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพิ่มเติม และให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติในการพิจารณาต่อไป
2. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2554 กบง. ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 6 ครั้ง โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 3.15 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 3.05 บาทต่อลิตร และกองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ไปแล้วประมาณ 4,629 ล้านบาท คงเหลือเงิน 371 ล้านบาท จะสามารถใช้ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลได้อีกประมาณ 2 วัน (ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554)
3. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 มีเงินสดในบัญชี 35,275 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 11,895 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 11,618 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 277 ล้านบาท ดังนั้นกองทุนน้ำมันฯ จึงมีฐานะสุทธิ 23,380 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีรายรับรวม 75.7 ล้านบาทต่อวัน แบ่งเป็นรายรับจากน้ำมันเบนซิน 58.4 ล้านบาทต่อวัน น้ำมันแก๊สโซฮอล 16.7 ล้านบาทต่อวัน และน้ำมันเตา 0.6 ล้านบาทต่อวัน ในส่วนรายจ่ายกองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายรวม 243.1 ล้านบาทต่อวัน แบ่งเป็นเงินชดเชยน้ำมันดีเซล 162.3 ล้านบาทต่อวัน ชดเชย LPG 61.7 ล้านบาทต่อวัน ชดเชย NGV 11.6 ล้านบาทต่อวัน และอื่นๆ 7.5 ล้านบาทต่อวัน รวมรายรับ - รายจ่ายสุทธิของกองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่ติดลบ 167.4 ล้านบาทต่อวัน หรือติดลบ 5,022 ล้านบาทต่อเดือน
4. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวในระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นจาก 89.04 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในเดือนธันวาคม 2553 มาอยู่ที่ 96.62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 น้ำมันเบนซิน 95 ปรับจาก 102.08 อยู่ที่ระดับ 108.95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลจาก 102.61 อยู่ที่ระดับ 114.49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยแนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 95 - 97 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับประมาณ 110 - 114 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากยังเป็นช่วงฤดูหนาวและสถานการณ์การประท้วงในอียิปต์ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 ในประเทศอยู่ที่ระดับ 39.74 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 อยู่ที่ระดับ 35.44 บาทต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันคงราคาอยู่ที่ระดับ 29.99 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และ บี5 อยู่ที่ 0.9449 บาทต่อลิตร และ 0.8153 บาทต่อลิตร ตามลำดับจากค่าการตลาดที่อยู่ในระดับต่ำอาจทำให้ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาขาย ปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วขึ้นอีก จะส่งผลให้ราคาขายปลีกเกิน 30.00 บาทต่อลิตร
5. เพื่อเป็นการรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตามนโยบายของรัฐบาล ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเสนอให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ เป็นกลไกในการบริหารราคาน้ำมันเพื่อไม่ให้กระทบต่อ ค่าขนส่งและราคาสินค้า โดยหากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับนี้จะใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลวันละ 170 ล้านบาท ถ้าจะชดเชยให้ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 จะต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในการชดเชยประมาณ 2,550 ล้านบาท อย่างไรก็ตามถ้าราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตร ถ้าหากจะรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในระดับไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จะต้องปรับเพิ่มการชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลเพิ่มอีก 1 บาทต่อลิตร จะใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลวันละ 225 ล้านบาท ถ้าจะชดเชยให้ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 จะต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในการชดเชยประมาณ 3,375 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
1. มอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปดำเนินการปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภท เมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากร้อยละ 3 เป็น ร้อยละ 2 ไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554
2. เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมัน ดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 โดยมอบหมายคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการ หากฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิเหลือวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไป
- กพช. ครั้งที่ 134 - วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 (1509 Downloads)