ข่าว : 'พลังงาน' หวั่นโควิด ฉุดยอดใช้น้ำมันปี63
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สถิติความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเดือน ม.ค. 2563 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 กลุ่มเบนซินการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 31.8 ล้านลิตร ต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.8% ส่วนการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 64.1 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.5% ขณะที่การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 22.1 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 3.0% เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่
ด้านนายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมัน เชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน วานนี้ (27 ก.พ.) มีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับกลุ่มดีเซล โดยเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ ในส่วนของดีเซล บี7 เพิ่ม 75 สตางค์ต่อลิตร เป็น 1 บาทต่อลิตร จากเดิม 25 สตางค์ต่อลิตร ส่วนดีเซล บี10 ชดเชยเพิ่ม 50 สตางค์ต่อลิตร เป็นชดเชย 2.50 บาทต่อลิตร จากเดิมชดเชย 2 บาทต่อลิตร และดีเซล บี20 ชดเชยเพิ่ม 50 สตางค์ต่อลิตร เป็นชดเชย 4.41 บาทต่อลิตร จากเดิมชดเชย 3.91 บาท ต่อลิตร ส่งผลให้เกิดส่วนต่างราคาขายปลีก ระหว่างดีเซล บี10 ถูกว่าดีเซล บี7 อยู่ที่ 3 บาทต่อลิตร จากเดิม 2 บาทต่อลิตร และ ดีเซล บี20 จะถูกกว่าดีเซล บี7 อยู่ที่ 3.50 บาท ต่อลิตร จากเดิม 3 บาทต่อลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (28 ก.พ.) เป็นต้นไป ซึ่งมติดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2563 ที่เห็นชอบให้ขยายส่วนต่างราคาขายปลีก เพื่อจูงใจ ให้เกิดการใช้ดีเซล บี10 และดีเซล บี20 มากขึ้น ตามนโยบายส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลของกระทรวงพลังงาน ที่กำหนดให้ทุกสถานีบริการ (ปั๊ม) น้ำมันทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ ต้องมีดีเซล บี10 จำหน่าย
ทั้งนี้ ตามมติดังกล่าวจะส่งให้สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ เปลี่ยนไป โดยบัญชีน้ำมันจะมีเงินไหลออกเพิ่มเป็น 819 ล้านบาทต่อเดือน จากวันที่ 26 ก.พ.2563 มีเงินไหลออก 413 ล้านบาทต่อเดือน และเมื่อรวมกับบัญชีแอลพีจีที่มีเงินไหลเข้าอยู่ที่ 32 ล้านบาทต่อเดือน จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลออกอยู่ที่ 787 ล้านบาทต่อเดือน หรือใช้เงินชดเชยราคาขายปลีกดีเซล บี10 และดีเซล บี20 เพิ่มขึ้นอีก 406 ล้านบาทต่อเดือน จากเดิมชดเชยอยู่ที่ 381 ล้านบาทต่อเดือน
โดยข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.พ.2563 ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิอยู่ที่ 36,005 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน อยู่ที่ 41,522 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจีติดลบอยู่ที่ 5,517 ล้านบาท นอกจากนี้ กบน. ยังเห็นชอบให้ปรับเพิ่มค่าการตลาดของผู้ประกอบการสำหรับดีเซล บี 10 และลดค่าการตลาดสำหรับดีเซล บี 20 และดีเซล บี 7 ลง เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกิดการจำหน่ายดีเซล บี10 มากขึ้น ตามมติ กบง. เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2563
นายวีระพล กล่าวว่า หลังจากปรับ เพิ่มส่วนต่างราคาขายปลีกดีเซล บี10 และ ดีเซล บี20 แล้ว คาดว่าสิ้นเดือน มี.ค.นี้จะส่งผลให้ยอดการใช้ดีเซล บี10 เพิ่มเป็น 20 ล้านลิตร จากช่วงวันที่ 1-23 ก.พ.2563 มียอดการใช้อยู่ที่ 5.3 ล้านลิต
สื่อหนังสือพิมพ์ : กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐ, ข่าวหุ้น, เดลินิวส์, แนวหน้า, ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, ไทยโพสต์
ข่าว : กบน. เพิ่มส่วนต่างให้ราคาดีเซล B10 ถูกกว่า B7 ถึง 3 บาทต่อลิตร หวังจูงใจคนมาใช้เพิ่มขึ้น
คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) เห็นชอบปรับเพิ่มส่วนต่างราคาดีเซล B10 ถูกกว่า ดีเซลB7ถึง 3 บาทต่อลิตร หวังจูงใจประชาชนหันมาใช้เพิ่ม ตั้งเป้าเดือน มี.ค. 2563 ยอดใช้ B10 พุ่งก้าวกระโดดเป็น20ล้านลิตรต่อวันจาก5.3ล้านลิตรต่อวัน แต่เงินจะไหลออกจากกองทุนเพิ่มขึ้นเป็น 819ล้านบาทต่อเดือน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามปริมาณการใช้ โดยราคาน้ำมันหน้าปั๊มมีผลเปลี่ยนแปลงวันที่28 ก.พ. 2563
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(ผอ. สกนช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานว่า ที่ประชุม กบน. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563 ให้ปรับอัตราส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เฉพาะกลุ่มดีเซลใหม่ โดยเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันดีเซลB7 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 7% ในทุกลิตร) เข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มจาก 0.25 บาทต่อลิตร เป็น 1 บาทต่อลิตร หรือเพิ่มขึ้น 75 สตางค์ต่อลิตร
ในขณะที่ น้ำมันดีเซลB10 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10% ในทุกลิตร) จะได้รับการชดเชยเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 บาทต่อลิตร เป็น 2.50 บาทต่อลิตร หรือเพิ่มขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร เช่นเดียวกับดีเซลB20 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 20% ในทุกลิตร) ปรับชดเชยเพิ่มขึ้นจากเดิม 3.91 บาทต่อลิตร เป็น 4.41 บาทต่อลิตร หรือชดเชยเพิ่มขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร ผลจากการปรับอัตราส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลB10 ต่ำกว่าราคาน้ำมันดีเซลB7 ถึง 3 บาทต่อลิตร จากเดิมที่ต่ำกว่า 2 บาทต่อลิตร และราคาดีเซลB20 ต่ำกว่าดีเซลB7 ถึง 3.50 บาทต่อลิตร จากเดิมต่ำกว่า 3 บาทต่อลิตร เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ดีเซลB10 มากขึ้น ตามนโยบายกระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ 28ก.พ.2563 นี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานมีนโยบายส่งเสริมให้ดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐาน ที่ผู้ค้าน้ำมันจะต้องมีจำหน่ายทุกปั๊มตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 นี้
ทั้งนี้ราคาดีเซล B10 จะปรับลดราคาลง 50 สตางค์ต่อลิตร มาอยู่ที่ 23.09 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันอยู่ที่ 23.59 บาทต่อลิตร และปรับราคาดีเซล B7 ขึ้นไป 50 สตางค์ต่อลิตร เป็น 26.09 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันอยู่ที่ 25.59 บาทต่อลิตร ส่วน B20 คงราคาเดิมที่ 22.59 บาทต่อลิตร
นายวีระพล กล่าวว่า ตามมติดังกล่าวจะส่งผลให้สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯเปลี่ยนไป โดยบัญชีน้ำมันจะมีเงินไหลออกเพิ่มเป็น 819 ล้านบาทต่อเดือน จากวันที่ 26 ก.พ.63 มีเงินไหลออก 413 ล้านบาทต่อเดือน และจะเพิ่มขึ้นอีกตามปริมาณการใช้ และเมื่อรวมกับบัญชีLPG ที่มีเงินไหลเข้าอยู่ที่ 32 ล้านบาทต่อเดือน จะทำให้กองทุนน้ำมันฯมีเงินไหลออก อยู่ที่ 787 ล้านบาทต่อเดือน โดยข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.พ.2563 ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิอยู่ที่ 36,005 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน อยู่ที่ 41,522 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบอยู่ที่ 5,517 ล้านบาท
น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ในเดือน มี.ค. 2563 ปั๊มน้ำมันที่ผู้ประกอบการเป็นเจ้าของแบรนด์เองทั้งหมด 6,000 แห่ง จะมีดีเซลB10 จำหน่ายทุกปั๊ม ส่วนปั๊มที่ไม่ใช่เจ้าของแบรนด์จะทยอยปรับตามในภายหลัง โดยคาดว่าภายหลังปรับส่วนต่างราคาดีเซล B10 ให้ห่างจากดีเซล B7 ถึง 3 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้เดือนมี.ค.2563 นี้จะมียอดใช้ดีเซล B10 เพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านลิตรต่อวัน จาก ณ วันที่ 1-23 ก.พ. 2563 มียอดใช้ 5.3 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่ยอดใช้ดีเซล B20 เดือน ก.พ. 2563 อยู่ที่ 6.8 ล้านลิตรต่อวัน
ทั้งนี้เป้าหมายของกระทรวงพลังงาน ในเดือน ก.ย. 2563 ต้องการให้มีการใช้ดีเซล B10 รวม 52 ล้านลิตรต่อวัน ยอดใช้ดีเซลB20 อยู่ที่ 6 ล้านลิตรต่อวัน และดีเซล B7 อยู่ที่ 8 ล้านลิตรต่อวัน จากยอดใช้ดีเซลเฉลี่ยรวมทั้งหมดประมาณ 65 ล้านลิตรต่อวัน
สื่อออนไลน์ : energynewscenter
คอลัมน์ แฟ้มข่าว : เสนอ กพช. ไฟเขียวไฟฟ้าเสรี
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ภายในเดือนมีนาคมนี้ กกพ. เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการไฟฟ้าเสรี ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน เพื่อขอความเห็นชอบการยกเว้นนโยบาย Enhancing Single Buyer ที่กำหนดให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้ารายเดียว ภายในเดือนเมษายน 2563 ทั้งนี้ เพื่อทดสอบระบบการซื้อขายไฟฟ้าเสมือนจริง ซึ่งจะเป็นการติดตามดูพฤติกรรมของผู้บริโภคและประสิทธิภาพของระบบว่าจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร อาทิ การซื้อขายไฟฟ้ากันเองระหว่างประชาชนกับประชาชนโดยไม่ผ่านระบบจำหน่าย ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องปลดล็อกนโยบายระบบผู้ซื้อรายเดียว เพื่อให้สามารถดำเนินการได้จริง เป็นต้น
ข่าว : ราคาน้ำมัน WTI ทรุดกว่า 5% หลุด 46 ดอลลาร์ ต่ำสุดกว่า 1 ปี กังวลโควิด-19 ฉุดอุปสงค์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรุดตัวลงกว่า 5% ในวันนี้ หลุดระดับ 46 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ท่ามกลางความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน ณ เวลา 22.54 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 2.66 ดอลลาร์ หรือ 5.46% สู่ระดับ 46.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากแตะระดับ 45.95 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีที่แล้ว
สื่อออนไลน์ : ryt9