ข่าว : ดึงกองทุนฯ พยุงราคาน้ำมัน รับวิกฤตอิหร่าน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงพลังงาน เพื่อประเมินสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านได้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน จะติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดแบบวันต่อวัน เพื่อประเมินและเตรียมการหากเกิดสถานการณ์วิกฤติ โดยขณะนี้ยังไม่กระทบสต็อกน้ำมัน ในขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมัน ณ วันที่ 5 ม.ค.2563 มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ 2,988 ล้านลิตร ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่ง 1,144 ล้านลิตร น้ำมันสำเร็จรูป 1,468 ล้านลิตร รวมจำนวนวันที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ 50 วัน ส่วนปริมาณสำรองก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อยู่ที่ 101 ล้านกิโลกรัม สำรองได้ 17 วัน สำหรับภาคครัวเรือน ส่วนด้านราคาน้ำมัน พบว่า กระทบต่อราคาน้ำมันดิบดูไบ ปรับเพิ่มขึ้น 4% ล่าสุดอยู่ ระดับ 69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งระดับราคายังไม่ส่งผลกระทบต่อไทยนัก โดยหากราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นไปแตะ ระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะออกมาตรการเข้มข้นขึ้น เพื่อดูแลผลกระทบราคา ขายปลีกที่จะส่งผลถึงประชาชน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้บริหารจัดการเพื่อกระจายความเสี่ยงการจัดหาน้ำมันดิบ ระยะยาว โดยกลุ่ม ปตท.ลดสัดส่วน การนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางที่เคยสูงถึง 74% เมื่อต้นปี 2562 และล่าสุดเหลือ 50% รวมทั้งเปลี่ยนเส้นทางนำเข้าจากตะวันออกกลางที่ผ่านแคบฮอร์มุซ อ่าวเปอร์เซีย มาเป็นจัดซื้อน้ำมันดิบจากสหรัฐและแอฟริกามากขึ้น ขณะที่ การผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ผลิตน้ำมันดิบได้ 1.3 แสนบาร์เรลต่อวัน โดยถ้ารุนแรงขึ้นจะขอความร่วมมืองดส่งออกน้ำมันดิบ ซึ่งจะทำให้ได้ปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 25,000 บาร์เรลต่อวัน และ หากมีเหตุฉุกเฉินจะเพิ่มการผลิต ภายในประเทศขึ้นอีก 36,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะเพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศได้ 2 สัปดาห์
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีเกณฑ์บริหารจัดการราคาน้ำมันช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อบริหารไม่ให้กระทบประชาชน ซึ่งสถานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 5 ม.ค.2563 อยู่ที่ 37,000 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน 42,592 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 5,214 ล้านบาท
สื่อหนังสือพิมพ์ : กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
ข่าว : 'TPCH' รุกธุรกิจพลังงาน ร่วมโรงไฟฟ้าชุมชนดัน ศก.
นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซีเพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือTPCH ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company)ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และมีบริษัทช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จำกัด (CRB)ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากชีวมวล เป็นบริษัทแกน เปิดเผยว่าการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากการรับรู้การจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)ของโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะกำลังการผลิตรวม 59 เมกะวัตต์
โดยในปี 63 บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากการ COD โรงไฟฟ้าเพิ่มจำนวน 5 แห่ง จากเดิมที่ COD ไปแล้ว6 แห่ง พร้อมทั้งยังศึกษาการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภทอื่นๆอีกด้วย เพื่อช่วยสนับสนุนให้รายได้และกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สื่อหนังสือพิมพ์ : สยามรัฐ, ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
ข่าว : “ประยุทธ์” เกาะติดสถานการณ์อิหร่าน-มะกัน กระทบราคาพลังงาน ยันคนไทยต้องปลอดภัย
นายกรัฐมนตรี เตือนเกาะติดสถานการณ์อิหร่าน-มะกัน รับฉุดราคาพลังงานโลกส่งผลราคาในประเทศ ยืนยันคนไทยในทั้งสองประเทศต้องปลอดภัย สั่งกำชับฝ่ายมั่นคงเฝ้าระวังทุกสถานทูต-สถานที่สำคัญ และรายงานนายกฯ 24 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 63 เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา ว่า ตนติดตามสถานการณ์อยู่ โดยฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศก็ติดตาม เราต้องให้ความสำคัญกับสถานการณ์ในต่างประเทศด้วย หลายอย่างก็ส่งผลต่อภูมิภาคของเราด้วย แม้จะเป็นประเทศที่อยู่ไกล ก็มีผลกระทบทางการค้าและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นต่างๆ วันนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ราคาพลังงานที่อาจจะสูงขึ้น ก็จะเกิดผลกระทบกับราคาพลังงานภายในประเทศ ทุกคนต้องคิดด้วยเหตุด้วยผล คิดเองเออเองทั้งหมดไม่ได้ และรัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าจะแก้ปัญหาได้มากน้อยเพียงใดตามกติกาและกฎหมายที่มีอยู่ เราจะแก้ไปแบบตามใจไม่ได้ เพราะมีความละเอียดอ่อน และสถานการณ์เช่นนี้ก็เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในปัจจุบัน ซึ่งทุกประเทศก็เป็นห่วงในเรื่องนี้ ไม่อยากให้เกิดขึ้น
เมื่อถามว่ามีการแจ้งเตือนคนไทยให้อพยพแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นมาตรการเฉพาะอยู่แล้ว ซึ่งเป็นระเบียบปฏิบัติประจำ ตนได้ย้ำกระทรวงการต่างประเทศไปแล้วว่าไม่ต้องให้สั่ง โดยทุกสถานฑูต กงศุล ต้องเตรียมแผนอพยพประชาชนไปในพื้นที่ปลอดภัยในขั้นต้นก่อน จากนั้นก็เป็นเรื่องของการส่งกลับ ซึ่งอาจจะใช้สายการบินพาณิชย์ แบบเช่าเหมาลำหรือเครื่องบินของกองทัพอากาศ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการขึ้นลงของสนามบินที่จะอนุญาตด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ขอให้คนไทยของเราปลอดภัย รวมถึงขอให้แจ้งญาติพี่น้องว่าปลอดภัยจะได้ไม่เป็นห่วง ตนขอฝากเอกอัครราชทูตและกงศุลต่างๆ ช่วยดูแลคนไทยให้มากที่สุด
“ขณะที่ในประเทศไทย ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง ดูแลสถานทูต ตลอดจนสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งผมได้สั่งการไปแล้ว งานเหล่านี้บางครั้งไม่ได้พูดไว้ก่อน แต่ก็เป็นการสั่งการวันเสาร์ อาทิตย์ เพราะข้อมูลต่างๆ ที่เข้ามา ทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ การต่างประเทศ ได้รายงานนายกฯ ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ซึ่งผมก็สั่งการไปแล้วให้หัวหน้าหน่วยงานรับผิดชอบปฏิบัติ ขณะเดียวกัน ได้มีการเสริมกำลังในสถานทูตต่างๆ โดยเฉพาะบางสถานทูตที่สำคัญ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กห. ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ติดตามและประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่านอย่างใกล้ชิด โดยให้ประสานกับหน่วยงานข่าว เพิ่มความเข้มการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสี่ยงในการผ่านเข้าออกประเทศไทยและในโลกไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ขอให้เฝ้าระวังและตั้งอยู่ในความไม่ประมาท พร้อมทั้งให้ประสานการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยของบุคคลและสถานที่สำคัญรวมทั้งแหล่งผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องในไทย และขอให้เตรียมความพร้อมสนับสนุนการเคลื่อนย้ายคนไทยกลับภูมิลำเนา หากเหตุการณ์ขยายตัวและมีความรุนแรงขึ้น
สื่อออนไลน์ : mgronline